เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๙ ก.ย. ๒๕๕๕

 

เทศน์เช้า วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๕
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

วันนี้วันพระ วันพระคือวันบำเพ็ญตบะธรรม บำเพ็ญเพียรภาวนา เพราะว่าเราเกิดมาไง วันโกนวันพระ เขาให้วันโกนเตรียมตัว วันพระให้ทำบุญกุศล เห็นไหม เราเกิดมาเป็นชาวพุทธ ถ้ามีวันพระวันโกนเราจะมีสติสตัง สติสตังมันได้ยั้งคิดนะ คนเราเวลามันทุกข์มันยาก มันทุกข์ยากไป มันถลำไปทั้งตัวไง มันไม่ได้ย้ำคิด เหมือนจมอยู่กับในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง จมอยู่กับความทุกข์ความยากอยู่อย่างนั้น วันโกนวันพระทำให้เราได้มีสติ ให้เรามาทบทวนว่าไม่ให้เราจมอยู่กับความรู้สึกนึกคิดอันนั้น เราจมอยู่กับความรู้สึกนึกคิดของเราเราก็ทุกข์นะ

เราเกิดมาบนโลกนี้ โลกนี้ของเราหรือเราเป็นของโลก? โลกนี้เป็นของเราหรือเราเป็นของโลกล่ะ? เราเป็นของโลกนะ เราบอกว่าโลกนี้เป็นของเรา ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าเลย ทุกคนอยู่ในหลุมหมด หรือไม่ก็เผาไปทั้งนั้นแหละ ไม่มีใครอยู่เหนือโลกนี้ได้หรอก เราเป็นส่วนหนึ่งของโลก ถ้าเราเป็นส่วนหนึ่งของโลก นี่เวลาเราเกิดมา เราเกิดมาเราเป็นคน เราเป็นมนุษย์ หรือได้สถานะของมนุษย์ล่ะ? แต่ว่าเราเป็นมนุษย์ เราเป็นคน ถ้าเราเป็นคนนะเรายึดมั่นถือมั่นของเรา แต่ถ้าเราได้สถานะความเป็นคนเราจะไม่ลืมตัว

นี่เวลาธรรมนะ ชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด ชีวิตนี้มันต้องพลัดพรากแน่นอน ถ้ามันพลัดพรากแน่นอน สิ่งที่เรามีชีวิตอยู่นี่เราเห็นได้ เรารู้ได้ เราจับต้องได้ เรารู้ได้ เราจับต้องได้ เราบริหารจัดการมันได้ไหม? เราบริหารจัดการทางโลก ทางโลกเขาต้องมีการวิจัยกันในการตลาด ว่าอนาคตสิ่งใดมันจะเฟื่องฟู เห็นไหม ธุรกิจในขาขึ้น ตะวันกำลังขึ้น กับธุรกิจที่มันกำลังตก นี่ตะวันตกดิน เขาทำวิจัยของเขา ในโลกนี้มันยังมีการเปลี่ยนแปลง

ชีวิตเราก็เหมือนกัน ชีวิตเรามันมีการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเราสิ้นชีวิตไปล่ะ? ชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด แล้วจิตนี้มันสิ้นไปไหม? จิตนี้มันไม่สิ้นไปเพราะมันเวียนตายเวียนเกิดในวัฏฏะไง เพราะผลของวัฏฏะเราถึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เราเป็นมนุษย์หรือเราได้สถานะของมนุษย์ เราได้สถานะของมนุษย์เพราะเรามีบุญกุศล ถ้าเราไม่มีบุญกุศลนะจิตนี้ไม่เคยตาย จิตนี้ไม่มีเว้นวรรค มันเวียนของมันไปตั้งแต่เทวดา อินทร์ พรหมลงมาถึงนรกอเวจี ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อเรื่องของเขา

สัตว์ สัตว์บางตัวนิสัยดีมาก สัตว์บางตัวนิสัยเกเรมาก คนก็เหมือนกัน คนบางคนดีจนไม่น่าคิดว่าคนจะดีได้ขนาดนี้นะ เวลาคนมันเลว มันก็เลวจนเราคิดไม่ถึงว่าคนมันจะเลวขนาดนั้น แล้วมันดีมันเลวมาจากไหนล่ะ? มันดีมันเลวมาจากความรู้สึกนึกคิดของเขา นี่ความรู้สึกนึกคิดอันนั้นมันดีหรือมันเลว ศาสนาไปแก้ตรงนั้น

ถ้าศาสนาไปแก้ตรงนั้นนะ เวลาคนเรา เห็นไหม นี่ถ้าใจมันดี กำขี้มันก็ดี เดี๋ยวนี้คนขายขี้ ขี้ค้างคาว ขี้นก ขี้วัว ขี้ควาย เขาร่ำรวยนะ ถ้าใจมันชั่ว มันหยิบเพชรหยิบทองมันก็ชั่ว มันอยู่ที่หัวใจ แต่เราไปอยู่ที่โลกไง โลกเราก็มองกันอยู่ข้างนอก นี่เราจะมองนะ เราเกิดมาโลกนี้เป็นของเรา โลกนี้เป็นของเรา แต่ถ้ามันแก้ไข นี่ถ้าใจมันดีธรรมมันแก้ที่นี่ ถ้ามันมีสติ มีสติ วันพระ วันโกน วันโกนเราเตรียมตัว วันโกนพระก็โกนผมโกนคิ้วไว้เพื่อจะลงอุโบสถ นี่พูดถึงวันโกนวันพระ

วันโกน วันพระ เราเป็นชาวพุทธ เห็นไหม นี้เป็นประเพณีวัฒนธรรม เราทำตามประเพณี ถ้าประเพณีเข้มแข็งนะ ใครไม่ทำหรือเราทำนอกเรื่องนอกราว เขาจะมองด้วยสายตาที่น่ากลัว แต่ถ้าเราทำคุณงามความดีนะเขาจะมองด้วยสายตาชื่นชม ถ้าเขาชื่นชมนี่มันมาจากไหนล่ะ? มันก็มาจากหัวใจ ถ้าหัวใจมีหลักมีเกณฑ์ สิ่งที่ดีที่ชั่วทางโลกเราควบคุมได้ ถ้าเราควบคุมที่นั่น นี่ธรรมะๆ ที่เราฟังธรรมๆ กัน

นี่ธรรมะ เห็นไหม เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกพระอานนท์

“อานนท์ เธอจงบอกบริษัท ๔ ให้ปฏิบัติบูชาเถิด อย่าบูชาเราด้วยอามิสเลย”

แต่ถ้าเราบูชาด้วยอามิส นี่อามิส บูชาด้วยอามิส เราทำบุญกุศลกันเราบูชาด้วยอามิส สิ่งนี้เป็นวัตถุ ถ้าเราปฏิบัติบูชา เราปฏิบัติพุทโธ หลวงตาพูดคำนี้เราซึ้งมากนะ

“พุทโธสะเทือนสามโลกธาตุ”

พุทโธนี่สะเทือนสามโลกธาตุ แต่เราพุทโธกันได้ไหม? เราพุทโธแล้ว คนภาวนาพุทโธเป็นล้านๆ ครั้งทำไมมันไม่สะเทือนหัวใจเราเสียทีล่ะ? พุทโธมันสะเทือนสามโลกธาตุ เวลาจิตมันลงนะขนพองสยองเกล้า เวลาจิตมันลงนะขนลุกหมดเลย นี่มันสะเทือนนี่ไง เพราะจิตมันเวียนตายเวียนเกิดในสามโลกธาตุ รูปภพ อรูปภพ จิตมันไปเกิด จิตนี้มันเป็น นี่โลกเป็นของเราหรือเราเป็นของโลก? เราไปเกิดเป็นพรหม พรหมเป็นของเราหรือเราเป็นของพรหม? พอจิตมันเวียนตายเวียนเกิดมันสะเทือนสามโลกธาตุ มันสะเทือนหัวใจนี่ไง

พุทโธนี่สะเทือนสามโลกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบอกให้ปฏิบัติบูชาเราเถิด ถ้าปฏิบัติบูชา เห็นไหม นี่สิ่งที่เวลาทรัพย์สมบัติทางโลกเราก็แสวงหามา ทุกคนต้องการทั้งนั้นแหละ ทุกคนต้องการความสุข เกลียดความทุกข์ทั้งนั้น ทุกคนต้องการความมั่งมีศรีสุข ทุกคนไม่ต้องการความทุกข์ทนเข็ญใจ เรื่องธรรมดาทุกคนเป็นอย่างนั้นแหละ ทุกคนต้องคิดอย่างนั้น แต่ถ้าจิตมันดีนะ เวลามันได้มา

นี่แบบทรัพย์สินเวลาเรามีของเรา สมบูรณ์ของเรา เห็นไหม แล้วจิตใจเรามีหลักมีเกณฑ์ มันเป็นประโยชน์ มันเป็นบุญกุศลไปทั้งนั้นเลย แต่ถ้าจิตใจนะ ได้เงินทองมาแล้วจิตใจมันเป็นโทษล่ะ? จิตใจเป็นโทษมันเป็นขี้ข้าของเงินทองนั้นนะ ใช้ก็ไม่กล้าใช้ รักษาสมบัติไว้นะมันยิ่งกว่าตุ๊กแกเฝ้าสมบัติอีก นี่ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ ปู่โสมเฝ้าทรัพย์ มันเป็นทุกข์ขึ้นมา เป็นทุกข์กับเราเลยล่ะ แต่ถ้าจิตใจ ถ้ามันทุกข์ทนเข็ญใจ ทุกข์ทนเข็ญใจมันก็ขาดแคลนเป็นธรรมดา ถ้าขาดแคลนเป็นธรรมดา ถ้าเรารักษาหัวใจล่ะ?

นี่แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง เห็นไหม ถ้าเรารักษาใจของเรา ถ้าใจมันดีนะ ไอ้ทุกข์จนหรือมั่งมีศรีสุขมันเป็นเรื่องภายนอก แต่เรื่องภายในมันรักษาหัวใจนี้ได้ ถ้ารักษาหัวใจนี้ได้ เรื่องนั้นมันจะไม่เป็นภาระกับใจนี้เลย แต่ถ้าหัวใจเราบกพร่องอยู่แล้ว จิตใจเราขาดแคลนอยู่แล้วนะ นี่เล็กๆ น้อยๆ นะ เงินบาท ๒ บาทเขาฆ่าแกงกันนะ เงินบาท ๒ บาทเขาแย่งชิงกันนะ แต่เวลาเราให้บุญกุศลเราให้มากมายมหาศาล นี่ถ้าจิตใจเราพัฒนาขึ้นมา แล้วพัฒนาที่ไหนล่ะ?

“เธอจงปฏิบัติบูชาเถิด”

ถ้าบูชาพุทโธ พุทโธ นี่เงิน เวลาเขานับเงินกัน ๑ บาท ๒ บาท ๓ บาท ๔ บาท เขานับเป็นร้อยเป็นพันนะ เราพุทโธ ๑ พุทโธ ๒ พุทโธก็ ๑ บาท ๒ บาท ๓ บาท มันนับไม่ได้ มันไม่เห็นคุณค่า แต่ถ้าใครเห็นคุณค่านะ จิตใจนี้มีคุณค่ามาก เวลาจิตใจมันปล่อยวางหมดนะ นี่มันเบา มันสบายของมันนะ แล้วสุขอันนี้ไม่เจือด้วยอามิส เราทำบุญกุศลนะ นี่ทำบุญกุศลทุกคนอยากมั่งอยากมี อยากร่ำอยากรวย พอทำบุญกุศลแล้วถ้ามันมั่งมีศรีสุข มันร่ำรวยมานะเราก็ดีใจ นี่สิ่งนั้นเป็นอามิส สิ่งนี้มันเป็นปัจจัยเครื่องอาศัย

แต่เวลาจิตใจมันพุทโธ พุทโธ เห็นไหม นี่นาโน พุทโธ พุทโธ มันสะสมของมัน ถ้ามันมีหลักมีเกณฑ์ของมัน ทรัพย์สมบัติอันนี้สิ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า

“อานนท์ เธอจงบอกเขานะ ปฏิบัติบูชาเราเถิด”

ถ้าปฏิบัติบูชา บูชาใคร? บูชาพุทโธ ธัมโม สังโฆ เห็นไหม เวลาบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พุทธะ พุทโธ พุทโธ แล้วจิตมันเป็นพุทโธเสียเองล่ะ? ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต นี่พุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน แล้วทรัพย์สมบัติอันนี้มันหาที่ไหนล่ะ?

นี่เราคุยกันนะ เราคุยกันเราเห็นทรัพย์สมบัติ ไปวัดไปวา เห็นเขาสร้างวิจิตรพิสดาร อู้ฮู วัดนี้เจริญรุ่งเรืองนะ เวลาหัวใจมันทุกข์มันร้อนมันจะรุ่งเรืองไหมล่ะ? อยู่ป่าอยู่เขานะ อยู่ที่สงบสงัด ถ้าจิตใจมันร่มเย็นนะมันก็ร่มเย็น มันอยู่ที่สงบสงัด ถ้าจิตมันไม่ร่มเย็นนะมันก็ร้อนของมัน มันก็ดีดดิ้นของมัน แต่ดีดดิ้นของมันเราต้องการสัปปายะ ๔ เราต้องการสิ่งนี้เพื่อบังคับใจเรา เพราะเรามีศีลมีธรรมเป็นข้อบังคับ

ถ้าเรามีศีลมีธรรมเป็นข้อบังคับ ศีล เห็นไหม บังคับให้เป็นปกติของใจ ศีละ ศีละ ศีลคือศิลาที่มั่นคงของใจ ถ้าใจมันมั่นคงขึ้นมา อยู่ที่ไหนมันก็มีความสุข ถ้าความสุขอย่างนี้แล้วสังคมมันจะมีการแก่งแย่งกันไหม? สังคมจะมีการเบียดเบียนกันไหม? สังคมเบียดเบียนกันเพราะอะไรล่ะ? เพราะต่างคนต่างคิดต่างคนต่างทำไง มันก็ไปเบียดเบียนกันที่สังคมนั้น เห็นไหม แล้วสังคมที่มันเบียดเบียนกันมันเกิดมาจากไหน? ก็เกิดจากความคิดของคน แล้วเราควบคุมที่ความคิดของคน แล้วความคิดของเขา เขาสุขเขาทุกข์ก็เรื่องของเขา เวลาเราสุขเราทุกข์มันบีบบี้หัวใจของเรา สุขทุกข์อันนี้สิมันสำคัญ

ถ้าเราสุขของเรา เห็นไหม แล้วเขาบอกว่ามันไม่มีหรอก นรกสวรรค์นี่เขียนเสือให้วัวกลัว ธรรมะมันจะมีที่ไหน? พระก็พูดไปเรื่อยเปื่อย พระเขาอยากได้ของเรา เขาถึงพูดให้เราเสียสละไง พระเขาอยากได้ไง เวลาคนมั่งมีศรีสุขนะ เวลาจิตใจเขาทุกข์ เขาทุกข์ไหม? เงินทองบีบบี้สีไฟเขาไหม? พระนะทรัพย์สมบัติมันเป็นของโลกเขา เวลาโยมเขาทำบุญกุศลเขาทำไร่นาของเขา เขาหว่านพืชของเขา เขาเป็นเจ้าของนาของเขา เวลาเขาเก็บข้าว เก็บพืชผลของเขา เขาก็เกี่ยวเอาข้าวของเขาไป เนื้อนาบุญนะมันก็เหลือแต่เศษฟางอยู่ที่นานั่นแหละ

นี่ถ้าพระมีสติสตังเขาจะรู้อย่างนั้นนะ นี่มันสมบัติของเขา นี่มันความดีของเขา นี่เขาทำเพื่อของเขา แล้วเวลาพระพูดกับพระเพื่อเชิดชูความดีของเขาให้เขามั่นคง ไอ้กิเลสก็บอกว่าก็พระมันอยากได้ เวลาพระให้ทำบุญๆ ก็พระกระเป๋าตุงอยู่นั่นน่ะ ทำบุญๆ ไง ไอ้เราทำบุญเกือบตาย ทำบุญเกือบตาย แล้วหัวใจล่ะ?

อริยทรัพย์ ทรัพย์สิ่งนี้มันเป็นทิพย์ เป็นทิพย์หมายถึงว่ามันอยู่กับใจตลอดไป สมบัติเก็บไว้นะ ไฟไหม้ โจรลักต่างๆ มันจะสูญหายไปโดยไม่ได้ประโยชน์ สิ่งที่เสียสละออกไปสิ่งนี้เป็นทิพย์ เสียสละออกไปจากมือ ความลับไม่มีในโลก เราเป็นผู้เสียสละซะเอง ของของนั้นอีกร้อยปี พันปีเราก็นึกได้ สดๆ ร้อนๆ สดๆ ร้อนๆ อยู่ที่กลางหัวใจ เห็นไหม นี่แล้วถ้าใครมีสติ มีสมาธิ มีปัญญาขึ้นมา ธรรมะสดๆ ร้อนๆ ดูสิดูปลาแดดเดียวสิ เขาจับปลามาเขาต้องแดดเดียวนะ เพื่อรักษาถนอมอาหารไง

นี่ก็เหมือนกัน ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็อยู่ในพระไตรปิฎกไง ธรรมะก็อยู่ในหนังสือไง หนังสือมันจดจารึกไว้มันไม่เน่าไม่เปื่อยไง แต่หัวใจมันทุกข์ร้อนไง แต่ถ้ามันทำขึ้นมาในหัวใจ เห็นไหม สดๆ ร้อนๆ มันเกิดที่นี่ หัวใจมันสงบระงับที่นี่ มันรู้ของมันที่นี่ แล้วมันจะเข้าใจว่าบุญมันเป็นอย่างไร? บุญนี่เป็นอย่างไร? บุญคือความสุขใจ บุญคือความพอใจของเรา บุญคือสิ่งที่ไม่มีสิ่งใดมาขัดแย้งในใจ แล้วมันมีบุญกุศลขึ้นมา เห็นไหม เวลาฟังธรรมนี่ เออ เข้าใจ เออ หลวงพ่อเทศน์เนาะ บางคนมานี่งงนะ มาทีไรหลวงพ่อด่าทุกวันเลย ไม่เห็นหลวงพ่อเทศน์สักที

นี่ไงเพราะจิตใจเขาไม่เปิดกว้าง มาทีไรก็ด่าทุกทีเลย ไม่เห็นเทศน์สักที พระอะไรไม่เคยเทศน์ให้ใครฟัง มีแต่ด่าคน แต่ถ้าใจมันเป็นธรรม โอ้โฮ มันสะเทือนหัวใจนะ ถ้ามันมีธรรมในหัวใจนะ เห็นไหม ไม่ลูบหน้าปะจมูก ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก ผิดใครทำก็ผิด ถูกใครทำก็ถูก เด็กมันก็ทำก็ถูก ผู้ใหญ่ทำก็ถูก ถ้ามันผิดใครทำก็ผิด นี้คือธรรม แล้วเวลาพูดธรรมะนี่มันพูด เห็นไหม เวลาหลวงตาท่านพูดไง

“เราไม่เคยว่าใครเลย เราว่ากิเลสของคนต่างหาก คนนี่เราไม่เคยว่าคนเลย”

เราเป็นเจ้าของโลก เห็นไหม โลกเป็นของเราหรือเราเป็นของโลก นี่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ก็ชั่วคราว ไปว่าใคร? ต่างคนต่างเกิดมา เกิดมาแล้วเกิดมาพบพุทธศาสนา เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระโพธิสัตว์นะ เกิดมาสร้างแต่คุณงามความดี ใครจะว่ามีหรือไม่มี เขียนเสือให้วัวกลัว มันกลัวหรือไม่กลัว แต่ความลับไม่มีในโลก หัวใจมันรู้ว่าทำดีหรือทำชั่ว ถ้ามันทำชั่วของมัน มันก็นั่งทับกองมูตรกองคูถ มันก็เร่าร้อนของมันอยู่อย่างนั้น ถ้ามันสร้างคุณงามความดี มันอยู่ที่ไหนมันก็มีความดีของมัน มันก็มีความสงบระงับของมัน

พระโพธิสัตว์สร้างขึ้นมาแล้ว พระโพธิสัตว์ถึงไม่กลัวสิ่งใดไง ถ้าเราทำคุณงามความดีของเราแล้วเรากลัวสิ่งใด? เราไม่กลัวสิ่งใด เห็นไหม ผู้ที่มีศีลสามารถกล้าหาญเข้าได้ทุกสังคม เพียงแต่ผู้มีศีลเขาไม่เข้าไปต่างหากล่ะ ไอ้พวกที่หน้าไหว้หลังหลอกนั่นน่ะมันเข้าไปนะ อู๋ย มีคุณธรรม มีคุณธรรม ในพระไตรปิฎกนะที่มีพระที่ว่าไปฉันในบ้าน แล้วสุดท้ายแล้วที่นกกระเรียนใช่ไหมที่มากินเพชรนิลจินดาไป แล้วมีปัญหากันมาก เวลาเรื่องจบแล้วนะ

“บัดนี้ เราจะไม่เหยียบเข้าชายคาบ้านใครอีกเลย”

อย่าว่าแต่เข้าบ้านนะ แม้แต่ชายคาบ้านเราจะไม่เหยียบเข้าไปอีกเลย เพราะมันไม่มีสิ่งใดเป็นประโยชน์ทั้งนั้น เราอยู่ในที่วิเวก อยู่ในอาวาส อารามิก ผู้ที่ไม่มีเรือน เราเป็นผู้ไม่มีเรือนนะ พรหมจรรย์เขาอยู่ในป่าในเขา แล้วบอกว่าถ้าผู้มีศีลกล้าหาญทำไมไม่เข้าบ้านเขาล่ะ? เข้าไปทำไม? เข้าไปให้มันมีผลกระทบใช่ไหม? นี่พระองค์นั้นจะบอกเลย

“ตั้งแต่บัดนี้เราจะไม่เหยียบไปชายคาบ้านใคร”

อย่าว่าแต่เข้าบ้านนะ ชายคาบ้านยังไม่เหยียบเลย แล้วจะเข้าไปบ้านเขาทำไม? เห็นไหม ถ้ามันสงบสงัดได้ ฉะนั้น บอกว่าถ้าผู้มีศีลผู้มีธรรมองอาจกล้าหาญ ทำไมไม่เข้าไปบ้านเขาล่ะ? องอาจกล้าหาญในธรรม ไม่ใช่องอาจกล้าหาญโดยโลก โดยโลกมันการคลุกคลี ด้วยการสอพลอ ด้วยการยกย่อง ด้วยการสรรเสริญ แต่โดยธรรม นี่พรหมจรรย์อยู่ที่ไหนเขาก็มีความสุขสงบระงับที่นั่น แล้วถ้าอยู่ที่มีธรรมนะ ธรรมะย่อมคุ้มครอง ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ธรรมะจะคุ้มครอง ธรรมอยู่กับดวงใจนั้น

เวลาธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไง บอกว่า

“เธอจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีสิ่งใดเป็นที่พึ่งเลย”

เราก็บอกธรรมที่ตัวบุคคลเราก็ไม่เอา เราจะไปเอาธรรมในกระดาษ ปลาแห้ง ตากไว้แห้งๆ ไง นี่ไปหาธรรมในกระดาษ แล้วก็ตีความเข้ากับกิเลสของตัว แต่เวลาธรรมในหัวใจของหลวงปู่มั่น ธรรมในหัวใจของครูบาอาจารย์เรา หลวงปู่มั่นเรื่องดุนี่ร่ำลือมาก หลวงตาเรื่องดุก็ร่ำลือมาก ทำไมถึงดุล่ะ? ก็ดุกิเลสพวกเราไง ดุสิ่งที่เราไม่รู้ไม่เห็นที่มันซับซ้อนอยู่นี่ไง ดุให้เรารู้ ดุให้เราเข้าใจ ดุให้เราแก้ไข เพื่อให้เราเป็นคนดีไง แต่ดุอย่างนี้ นี่ไม่มีลูบหน้าปะจมูกไง แต่เราก็ไม่ชอบ เราชอบให้ดุใครก็ได้เว้นเราไว้คนเดียว ดุใครก็ได้ต้องเว้นเราไว้คนเดียว เว้นไว้เพื่ออะไรล่ะ? เว้นไว้ให้กิเลสมันพอกพูนขึ้นมาใช่ไหม?

นั่นพูดถึงเราปฏิบัติธรรมกัน เห็นไหม เราต้องกลับมาดูที่นี่ ดูที่ใจของเรา ใครจะสุข ใครจะทุกข์มันใจของเขา แต่เราเป็นเพื่อนฝูง เป็นสหธรรมิกกัน เราก็ช่วยเหลือเจือจานกัน แต่โดยสัจธรรมนะ นี่ปัจจัตตัง สันทิฏฐิโก มันใจของใคร มีความสุขความทุกข์ก็ใจเขา เวลาใจของเรามีความสุขความทุกข์ก็ใจเรา แล้วถ้าเราแก้ไขใจของเราได้ เราจะเอาธรรมอันนี้เจือจานเขาได้ บอกเขาได้ สั่งสอนเขาได้

ร่มโพธิ์ร่มไทรของเรานะ ถ้ามีครูบาอาจารย์เป็นหลักเป็นเกณฑ์จะมีร่มโพธิ์ร่มไทรเป็นที่พึ่งอาศัย ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ของเรา เราก็ต้องพยายามขวนขวาย ปากกัดตีนถีบของเรา เอาตัวรอดให้ได้ถ้าคนนั้นมีคุณธรรม ถ้าคนไม่มีคุณธรรม ร้องไห้ เสียใจ น้อยเนื้อต่ำใจ เราทุกข์ เรายาก เราทุกข์ เรายาก แล้วใครจะทุกข์จะยากเกินใครล่ะ? มันก็เท่ากัน มันก็เท่ากันน่ะ แต่ใครจะเข้มแข็ง เพื่อเอาใจของเรา เพื่อประโยชน์กับเรานะ

วันพระ เห็นไหม พระเป็นผู้ประเสริฐ จิตใจเราต้องเป็นพระ แล้วมันจะประเสริฐขึ้นมาในใจของเรา แล้วเราจะเป็นชาวพุทธสมบูรณ์แบบ ชาวพุทธของเรา พุทธที่ใจของเรา ไม่ใช่พุทธที่ทะเบียนบ้าน เอวัง